พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง ก่อตั้งขึ้นหลังการเสด็จประพาสเยี่ยมชมหลุมขุดค้นทางโบราณคดีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2515 การเสด็จประพาสดังกล่าวได้กระตุ้นและความตระหนักถึงความสำคัญของแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ซึ่งกำลังประสบปัญหาการลักลอบค้าโบราณวัตถุในขณะนั้น
ภายในพื้นที่ แบ่งเป็น
• อาคารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นอาคารศูนย์รวมส่วนบริการต่างๆ ได้แก่ จุดประชาสัมพันธ์และจำหน่ายบัตรเข้าชม ห้องประชุม และห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน
• อาคารกัลยาณิวัฒนา เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการหลัก ประกอบด้วยส่วนจัดแสดง จำนวน 9 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับบ้านเชียง บอกเล่าเรื่องการเสด็จประพาสบ้านเชียงในปี พ.ศ.2515 ซึ่งนำพาความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ในการศึกษาและการพัฒนาแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงและแหล่งอื่นๆ ในประเทศไทย พระราชปุจฉาซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสถามเมื่อคราวเสด็จนั้น ถูกนำมาจัดแสดงในส่วนนี้เพื่อเกริ่นนำถึงขั้นตอนการศึกษาทางด้านโบราณคดีเบื้องต้น
ส่วนที่ 2 การดำเนินงานทางโบราณคดีที่บ้านเชียง นำเสนอลำดับเวลาการศึกษาด้านโบราณคดีในบ้านเชียง โดยเน้นเหตุการณ์สำคัญ รวมถึงบุคลากรที่มีส่วนสำคัญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ส่วนที่ 3 การปฏิบัติงานทางโบราณคดีที่บ้านเชียง แสดงขั้นตอนการทำงานและการศึกษาระหว่างการขุดค้นโดยนักโบราณคดี ระหว่างปี พ.ศ.2517 - 2518 เช่น การแบ่งประเภท , วิเคราะห์โบราณวัตถุที่พบ รวมถึงวีดีทัศน์บทสัมภาษณ์ชาวบ้านในท้องถิ่น
ส่วนที่ 4 หลุมขุดค้นทางโบราณคดี จำลองสภาพหลุมขุดค้น โดยผู้เข้าชมสามารถเยี่ยมชมและสังเกตขั้นตอนการทำงานภายในหลุมขุดค้นอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ 5 จัดแสดงโบราณวัตถุจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดโพธิ์ศรี โดยแบ่งออกตามสมัยของวัฒนธรรมบ้านเชียง 3 สมัย เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ และเครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติ แก้ว หิน และโลหะ
ส่วนที่ 6 วัฒนธรรมบ้านเชียงยุคก่อนประวัติศาสตร์ จัดแสดงโดยจำลองบรรยายกาศและโบราณวัตถุเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในวัฒนธรรมบ้านเชียง
ส่วนที่ 7 การค้นพบยุคสำริดที่หายสาบสูญ นิทรรศการนี้ถูกดัดแปลงมาจากนิทรรศการที่ถูกจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งจัดแสดงในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสิงคโปร์ เป็นอธิบายการศึกษาทางโบราณคดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นทวีปโดยสังเขป จนถึงการค้นพบวัฒนธรรมในยุคสำริดที่แหล่งบ้านเชียง
ส่วนที่ 8 มรดกโลก จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติที่แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ได้รับเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ.2535 ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่ 3 "เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว"
ส่วนที่ 9 การกระจายตัวของวัฒนธรรมบ้านเชียง จัดแสดงโบราณวัตถุที่ถูกพบระหว่างการสำรวจจากแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ใกล้เคียงกับพื้นที่แหล่งบ้านเชียง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 เพื่อศึกษาการกระจายตัวของวัฒนธรรมบ้านเชียงในบริเวณแอ่งสกลนคร ปัจจุบันมีการค้นพบแหล่งโบราณคดีที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมบ้านเชียงจำนวน 127 แหล่งกระจายตามลุ่มน้ำสำคัญในจังหวัดอุดรธานี สกลนคร และหนองคาย
• อาคารนิทรรศการไทพวน จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของชาวไทพวน ซึ่งเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานในแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงในปัจจุบัน เดิมเป็นบ้านของคุณพจน์ มนตรีพิทักษ์ ซึ่งอนุญาตให้กรมศิลปากรทำการขุดค้นฯ หลังจากการเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ คุณพจน์ฯ ผู้เป็นเจ้าของ จึงบริจาคบ้านรวมถึงที่ดินให้กับกรมศิลปากรเพื่อสงวนรักษา เป็นอนุสรณ์สถานการเสด็จประพาสในครั้งนั้น และได้รับพระราชทานรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2550 โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
• หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน ตั้งอยู่ในวัดโพธิ์ศรีในห่างออกไปจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียงทางทิศตะวันออกราว 500 เมตร หลังจากการเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2515 กรมศิลปากรได้ปรับปรุงหลุมขุดค้น เพื่อจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของประเทศ
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
หมู่ที่ 13 ถนนสุทธิพงษ์ ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี 41320
โทรศัพท์ : 042-235 040-1
เว็บไซต์ : http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/banchiang/
อีเมล : bc-worldheritage@hotmail.com
วันและเวลาทำการ
วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. – 16.00 น
ค่าเข้าชม
• ชาวไทย 30 บาท
• ชาวต่างชาติ 150 บาท
• ยกเว้นนักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ (ชาวไทย) ภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่างๆ
การเดินทาง
• โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้หลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านสระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ถึงอุดรธานี รวมระยะทางประมาณ 564 กิโลเมตร
• โดยรถประจำทาง มีบริการรถโดยสารทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ เส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานี รถออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ(หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร ทุกวัน
• โดยรถไฟ มีบริการรถไฟวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-อุดรธานี ทุกวัน
• โดยเครื่องบิน มีเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-อุดรธานี ทุกวัน
#ที่เที่ยวอุดรธานี #อุดรธานี #ดินแดนแห่ง3ธรรม #บ้านเชียง #พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
#ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว #ชสท #ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#พิกัดนี้น่าเที่ยว
#TravelGuruThailand #ชสทอุดรธานี
ภายในพื้นที่ แบ่งเป็น
• อาคารสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นอาคารศูนย์รวมส่วนบริการต่างๆ ได้แก่ จุดประชาสัมพันธ์และจำหน่ายบัตรเข้าชม ห้องประชุม และห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน
• อาคารกัลยาณิวัฒนา เป็นอาคารจัดแสดงนิทรรศการหลัก ประกอบด้วยส่วนจัดแสดง จำนวน 9 ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชกับบ้านเชียง บอกเล่าเรื่องการเสด็จประพาสบ้านเชียงในปี พ.ศ.2515 ซึ่งนำพาความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ในการศึกษาและการพัฒนาแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงและแหล่งอื่นๆ ในประเทศไทย พระราชปุจฉาซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงตรัสถามเมื่อคราวเสด็จนั้น ถูกนำมาจัดแสดงในส่วนนี้เพื่อเกริ่นนำถึงขั้นตอนการศึกษาทางด้านโบราณคดีเบื้องต้น
ส่วนที่ 2 การดำเนินงานทางโบราณคดีที่บ้านเชียง นำเสนอลำดับเวลาการศึกษาด้านโบราณคดีในบ้านเชียง โดยเน้นเหตุการณ์สำคัญ รวมถึงบุคลากรที่มีส่วนสำคัญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ส่วนที่ 3 การปฏิบัติงานทางโบราณคดีที่บ้านเชียง แสดงขั้นตอนการทำงานและการศึกษาระหว่างการขุดค้นโดยนักโบราณคดี ระหว่างปี พ.ศ.2517 - 2518 เช่น การแบ่งประเภท , วิเคราะห์โบราณวัตถุที่พบ รวมถึงวีดีทัศน์บทสัมภาษณ์ชาวบ้านในท้องถิ่น
ส่วนที่ 4 หลุมขุดค้นทางโบราณคดี จำลองสภาพหลุมขุดค้น โดยผู้เข้าชมสามารถเยี่ยมชมและสังเกตขั้นตอนการทำงานภายในหลุมขุดค้นอย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ 5 จัดแสดงโบราณวัตถุจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดโพธิ์ศรี โดยแบ่งออกตามสมัยของวัฒนธรรมบ้านเชียง 3 สมัย เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ และเครื่องประดับจากวัสดุธรรมชาติ แก้ว หิน และโลหะ
ส่วนที่ 6 วัฒนธรรมบ้านเชียงยุคก่อนประวัติศาสตร์ จัดแสดงโดยจำลองบรรยายกาศและโบราณวัตถุเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในวัฒนธรรมบ้านเชียง
ส่วนที่ 7 การค้นพบยุคสำริดที่หายสาบสูญ นิทรรศการนี้ถูกดัดแปลงมาจากนิทรรศการที่ถูกจัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ซึ่งจัดแสดงในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสิงคโปร์ เป็นอธิบายการศึกษาทางโบราณคดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภาคพื้นทวีปโดยสังเขป จนถึงการค้นพบวัฒนธรรมในยุคสำริดที่แหล่งบ้านเชียง
ส่วนที่ 8 มรดกโลก จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติที่แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ได้รับเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ.2535 ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาข้อที่ 3 "เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว"
ส่วนที่ 9 การกระจายตัวของวัฒนธรรมบ้านเชียง จัดแสดงโบราณวัตถุที่ถูกพบระหว่างการสำรวจจากแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ใกล้เคียงกับพื้นที่แหล่งบ้านเชียง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2515 เพื่อศึกษาการกระจายตัวของวัฒนธรรมบ้านเชียงในบริเวณแอ่งสกลนคร ปัจจุบันมีการค้นพบแหล่งโบราณคดีที่ได้รับอิทธิพลของวัฒนธรรมบ้านเชียงจำนวน 127 แหล่งกระจายตามลุ่มน้ำสำคัญในจังหวัดอุดรธานี สกลนคร และหนองคาย
• อาคารนิทรรศการไทพวน จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของชาวไทพวน ซึ่งเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานในแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงในปัจจุบัน เดิมเป็นบ้านของคุณพจน์ มนตรีพิทักษ์ ซึ่งอนุญาตให้กรมศิลปากรทำการขุดค้นฯ หลังจากการเสด็จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ คุณพจน์ฯ ผู้เป็นเจ้าของ จึงบริจาคบ้านรวมถึงที่ดินให้กับกรมศิลปากรเพื่อสงวนรักษา เป็นอนุสรณ์สถานการเสด็จประพาสในครั้งนั้น และได้รับพระราชทานรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ประจำปี พ.ศ.2550 โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
• หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน ตั้งอยู่ในวัดโพธิ์ศรีในห่างออกไปจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียงทางทิศตะวันออกราว 500 เมตร หลังจากการเสด็จประพาสเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2515 กรมศิลปากรได้ปรับปรุงหลุมขุดค้น เพื่อจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรกของประเทศ
ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ
หมู่ที่ 13 ถนนสุทธิพงษ์ ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี 41320
โทรศัพท์ : 042-235 040-1
เว็บไซต์ : http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/banchiang/
อีเมล : bc-worldheritage@hotmail.com
วันและเวลาทำการ
วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. – 16.00 น
ค่าเข้าชม
• ชาวไทย 30 บาท
• ชาวต่างชาติ 150 บาท
• ยกเว้นนักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ (ชาวไทย) ภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่างๆ
การเดินทาง
• โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้หลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านสระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ถึงอุดรธานี รวมระยะทางประมาณ 564 กิโลเมตร
• โดยรถประจำทาง มีบริการรถโดยสารทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศ เส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานี รถออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ(หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร ทุกวัน
• โดยรถไฟ มีบริการรถไฟวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-อุดรธานี ทุกวัน
• โดยเครื่องบิน มีเที่ยวบินระหว่าง กรุงเทพฯ-อุดรธานี ทุกวัน
#ที่เที่ยวอุดรธานี #อุดรธานี #ดินแดนแห่ง3ธรรม #บ้านเชียง #พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
#ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว #ชสท #ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#พิกัดนี้น่าเที่ยว
#TravelGuruThailand #ชสทอุดรธานี