นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. กล่าวว่า ททท. ภูมิภาค ภาคตะวันออก นำเสนอมิติแห่งประสบการณ์ท่องเที่ยวภาคตะวันออกผ่านแนวคิดหลัก “คัลเลอร์ฟูลบูรพา : สีสันตะวันออก กับ Theme ยืนหนึ่งเรื่องกิน สุดฟินเรื่องเที่ยว เต็มเหนี่ยวเที่ยวสายศรัทธา(สายมู) เรียนรู้เรื่องรักษ์” ชูจุดขายความอุดมสมบูรณ์ของ Soft Power F-Food เน้นอาหารการกินดินแดนแห่งบูรพาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Colorful Burapha : สีสันตะวันออก” โดยปลุกกระแส “ยืนหนึ่งเรื่องกิน” ดึงไฮไลต์ช่วงฤดูกาลผลไม้ ด้วยการจัดพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในภาพรวมของภูมิภาคภาคตะวันออก
#อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 ที่จังหวัดระยอง และเปิดสวนผลไม้นำร่อง ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมเสนอโปรโมชันพิเศษจาก ททท.สำนักงานภูมิภาคภาคตะวันออก เพิ่มแรงส่งทางการท่องเที่ยวต้อนรับฤดูกาลผลไม้ของภูมิภาคภาคตะวันออก ตลอดทั้งเดือนพฤษภาคมของทุกปีคาดการณ์ไว้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวและผู้เยี่ยมเยือนในภูมิภาคภาคตะวันออกไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคน/ครั้ง ก่อให้เกิดรายได้เงินสะพัดทางตรงประมาณกว่า 25,000 ล้านบาท
กิจกรรมการตลาดท่องเที่ยวภาคตะวันออกในเดือนพฤษภาคมเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและเหล่าคนรักผลไม้ (Fruit Lovers) ได้เที่ยวชมและเจาะลึกประสบการณ์วิถีชาวสวนผลไม้ พร้อมชิมผลผลิตสดๆ จากต้น โดยนำหัวใจหลักของการสื่อสาร (Key Message) มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบอาหารและผลไม้ รวมทั้งไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวในสวนผลไม้ เที่ยวสายกินค้นหาเมนูลับสร้างสรรค์จากผลไม้ เที่ยวตามคาเฟ่วิวสวยร้านอาหารถิ่น อาหารแปลก ชื่นชอบสำรวจเช็คอินย่านเมืองเก่า ช้อปปิ้งถนนคนเดิน ค้นหาเสน่ห์ของแหล่งกำเนิดอาหารและวัตถุดิบใน 9 จังหวัดของภาคตะวันออก อันได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว ที่โดดเด่นด้วยรสชาติ ความสดอร่อย เชื่อมโยงบรรยากาศของธรรมชาติ วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และมิตรไมตรีของคนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่จะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกตลอดทั้งปีช่วยส่งมอบความสุขและเติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ รวมทั้งช่วยผลักดันสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ F-Food ให้เป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการ-ชุมชนธุรกิจท่องเที่ยว ให้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานรากต่อไป
ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภาคตะวันออกตลอดฤดูกาล ททท. ภูมิภาคภาคตะวันออก ได้จัดกิจกรรมนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวและโปรโมชันพิเศษ พาตะลุย ชมไปช้อปไปชิมไป เอาใจสายกิน ทุกสวน 9 จังหวัด ดังนี้
1.จังหวัดระยอง จัดแคมเปญ #RayongWanderFruit2024 มอบโปรโมชันส่วนลดพิเศษร่วมกับสวนผลไม้ 32 สวนที่เข้าร่วมโครงการ เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อผลไม้ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป รับส่วนลด 100 บาท ซึ่งสิทธิ์ส่วนลดมีจำนวนจำกัด สามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม 2567 (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานระยอง)
2.จังหวัดจันทบุรี จัดแคมเปญ #เที่ยวกินฟินกับผลไม้เมืองจันท์ ชวนสัมผัสฤดูแห่งความสุข ”จันทบุรีมหานครแห่งผลไม้“ นำเสนอโปรโมชันส่วนลดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการโรงแรม 20 แห่ง ร้านอาหารและคาเฟ่ 21 แห่ง และสวนผลไม้ 14 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน 2567 จำกัด 1,000 สิทธิ์เท่านั้น (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานจันทบุรี)
3.จังหวัดตราด สายกินห้ามพลาดกับแคมเปญ #อร่อยทันทีที่เที่ยวตราด นำเสนอเหล่าผลไม้ที่เป็นสินค้า GI ของจังหวัดตราด ทั้งทุเรียนสายพันธุ์ชะนีเกาะช้าง ระกำหวาน และสัปปะรดตราดสีทอง ย้ำชวนนักท่องเที่ยวจองแพ็กเกจทัวร์ 16 สวนผลไม้ตราดและบุฟเฟ่ต์เมืองตราด อร่อยสะหงาด ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2567 (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานตราด)
4.จังหวัดชลบุรี ก็มีสวนทุเรียน พบกับ #เทศกาลทุเรียนผลไม้และของดีบ่อทอง(OTOP) วันที่ 17-26 พฤษภาคม 2567 บริเวณที่ว่าการอำเภอบ่อทอง และเอาใจสายสับปะรดศรีราชา สินค้า GI ของจังหวัดชลบุรี รสชาติหวานฉ่ำ มีกลิ่นหอม เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เกือบทั้งปีโดยผลผลิตจะออกมากช่วงเดือน เมษายน – มิถุนายน 2567 และเดือน ตุลาคม- ธันวาคม 2567 นอกจากนี้ยังมี คาเฟ่ Fashion Fruit และตลาดผลไม้สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักทุเรียน-มังคุดต้องห้ามพลาด (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานพัทยา)
5.จังหวัดฉะเชิงเทรา ชวนนักท่องเที่ยวชมสวนมะพร้าว (เที่ยวได้ตลอดปี) และสวนมะม่วง (เที่ยวชมได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม) อร่อย ฟินกับอัตลักษณ์โดดเด่นของมะม่วงสายพันธุ์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มะม่วงขายตึก มะม่วงไขตึก มะม่วงแรด มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงอกร่อง มะม่วงฟ้าลั่น มะม่วงทวายเดือนเก้า มะม่วงโชคอนันต์ ฯลฯ พร้อมมะพร้าวน้ำหอม รวมทั้งยังมีค่าเฟ่เก๋ๆ ให้นักท่องเที่ยวนั่งสบาย รวมทั้งผ่อนคลายไปกับเมนูสร้างสรรค์จากวัตถุดิบผลไม้ประเภทต่างๆ ทั้งมะม่วงและมะพร้าว เช่น Coco Milky Coffee Coconut Latte ข้าวเหนียวมะม่วงเจลลี่ชีสเค้ก ไอศกรีมมะม่วงฯลฯ (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา)
6.จังหวัดปราจีนบุรี นักท่องเที่ยวสายทุเรียนเลิฟเว่อร์ต้องถูกใจกับทุเรียน สินค้า GI จำนวน 7 สายพันธุ์แห่งเมืองสมุนไพรปราจีนบุรี เที่ยวตามสวนต่างๆในจังหวัดปราจีนบุรีกับหลายสายพันธุ์ อันได้แก่ พันธุ์ก้านยาว หมอนทอง ชะนี กระดุมทอง และกลุ่มทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอีก3สายพันธุ์ ได้แก่ กบชายน้ำ ชมพูศรี และพันธุ์กำปั่น ซึ่งสามารถมาอิ่ม อร่อย ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม 2567 (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานนครนายก)
7.จังหวัดนครนายก นักท่องเที่ยวสามารถชวนลิ้มลองรสชาติของทุเรียนและผลไม้อื่น ๆ จากสวนและคาเฟ่ต่างๆในจังหวัดนครนายก ได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2567 และยังมีเมนู Fashion Fruit จากมะยงชิด เสิร์ฟแบบเย็นใจคลายร้อน (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานนครนายก)
8.จังหวัดสระแก้ว นำเสนอผลไม้ดีต่อสุขภาพแคนตาลูป พันธุ์ฮันนี่เวิลด์และท็อปมารีน ตลอดจนชมพู่ นักท่องเที่ยวสามารถมาชิมกันได้ทั้งในสวนและคาเฟ่จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2567 (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานนครนายก)
9.จังหวัดสมุทรปราการ เที่ยวตลาดผลไม้ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง คุ้งบางกระเจ้า 6 ตำบล ลิ้มรสอาหารถิ่นขึ้นชื่อที่รังสรรค์เมนูจากวัตถุดิบพื้นบ้านและผลไม้ ผสมผสานการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน ยกตัวอย่าง เมี่ยงกลีบบัวพริกเกลือ แกงกระเจี๊ยบกุ้ง ห่อหมกปลาช่อนบางยอ แกงมัสมั่นลูกจากพริกเกลือคั่วมะพร้าว แกงส้มพริกสด ปลาทอดซอสตะลิงปิง ซึ่งหากใครได้มาสัมผัสรสชาติอาหารถิ่นของคุ้งบางกระเจ้า รับรองติดใจ แล้วจะต้องหาโอกาสมาเยือนซ้ำ อีกทั้ง ชุมชนบ้านสาขลา เมนูกุ้งเหยียด ที่มาแล้วพลาดไม่ได้ สามารถ เที่ยว กิน ฟิน ฟัน ได้ตลอดทั้งปีเช่นเดียวกัน (สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา)
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ เพจ Facebook เที่ยวภาคตะวันออก และ 6 ททท.สำนักงานภาคตะวันออก (ประกอบด้วย ททท.สำนักงานพัทยา, ททท.สำนักงานระยอง, ททท. จันทบุรี, ททท.ตราด, ททท.ฉะเชิงเทรา (ดูแลพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) และ ททท.นครนายก (ดูแลพื้นที่ จ.นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว)) หรือ TAT Contact Center โทร.1672